การเตรียมตัวก่อนการจัดฟัน

คุณเป็นอีกคนหนึ่งหรือเปล่า ที่ไม่กล้ายิ้ม หรือหัวเราะออกมาอย่างเต็มที่ เมื่อคุณสนุก หรือรู้สึกมีความสุข หรือบางครั้งก็ต้องเอามือปิดปากไว้ และสาเหตุที่ทำให้คุณไม่กล้ายิ้มหรือหัวเราะ แบบเปิดเผยนั้น ก็เป็นเพราะคุณไม่อายที่จะให้ใคร ๆ เห็นฟันของคุณนั้นเอง

ผู้ที่จะช่วยแก้ปัญหานี้ให้กับคุณได้อย่างถาวร ก็คือทันตแพทย์เฉพาะทางสาขาจัดฟันนั้นเอง หลาย ๆ คนคิดว่า ตนเองน่าจะต้องจัดฟันแล้ว แต่ทั้งนี้ ก็ไม่รู้จะเริ่มต้น หรือเตรียมตัวอย่างไร ลองมาติดตามจากคำแนะนำในบทความนี้กัน

เข้าใจเหตุผลที่ทำให้เราต้องจัดฟัน

คนส่วนใหญ่ ต้องการจัดฟัน เพราะต้องการให้ฟันเรียบสวย แต่สาเหตุที่สำคัญที่สุด ในมุมมองของทันตแพทย์นั้น คือการสบฟันที่ดีขึ้น และเหมาะสมขึ้น หลังการจัดฟัน แต่ทั้งนี้ ฟันที่เป็นปัญหา ไม่ว่าจะเป็นฟันยื่น ฟันซ้อนเก หรือการสบฟันไม่ปกติ ต่างก็นำไปสู่ปัญหาในช่องปากได้ทั้งนั้น ทั้งฟันผุ โรคเหงือก หรือแม้กระทั่งการสูญเสียฟัน นั่นเป็นเพราะเราจะไม่สามารถทำความสะอาดฟันในลักษณะดังกล่าวนั้นได้อย่างทั่วถึง นอกจากนี้ การสบฟันที่ไม่ปกติ ยังทำให้เรามีปัญหาในเรื่องการเคี้ยวอาหาร และการพูดอีกด้วย

เลือกปรึกษาทันตแพทย์

เมื่อคุณคิดสินใจแล้วว่า จะจัดฟัน อย่างแรกต้องนัดหมายเพื่อเข้าพบทันตแพทย์เฉพาะทางสาขาจัดฟันก่อน แน่นอนว่า คุณต้องหาข้อมูล และเลือกทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเพียงพอที่จะจัดฟันให้กับคุณได้ การจัดฟันนั้น ไม่ใช่สิ่งที่ทันตแพทย์ทุกคนจะทำได้ การหาข้อมูลเกี่ยวกับทันแพทย์ ประจำคลินิคต่าง ๆ และเลือกทันตแพทย์จัดฟัน เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะทันตแพทย์จัดฟัน จะต้องเป็นผู้ที่ผ่านฝึกอบรมในขั้นสูงกว่าทันตแพทย์ทั่วไป จึงจะมีความสามารถในการเคลื่อนย้ายฟันและแก้ไขปัญหาให้คุณได้ ไม่ว่าคุณจะฟันยื่น หรือฟันซ้อนแก เพื่อให้คุณมีรอยยิ้มที่สมบูรณ์แบบและสุขภาพในช่องปากที่ดี และเมื่อได้ทันตแพทย์ และคลินิคที่เหมาะสมแล้ว ก็นัดหมายเพื่อเข้ารับคำปรึกษา

ทำความเข้าใจการทำงานของทันตแพทย์จัดฟัน

สิ่งที่ทำให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ต้องเข้ามาพบทันตแพทย์จัดฟันก็คือ การสบฟันไม่ปกติ ทันตแพทย์จัดฟัน จะช่วยแก้ไขปัญหา และทำให้ฟันเข้าที่เข้าทาง จัดเรียงตัวกันอย่างเหมาะสมและสวยงามบนกระดูกขากรรไกร สิ่งที่ทันตแพทย์จัดฟันจะนำมาใช้ก็คือ เหล็กจัดฟัน หรือ Braces, อุปกรณ์ปรับฟัน ถาดฟัน หรือ Aligners, และอาจจะมีอุปกรณ์อื่น ๆ อีกเช่น เฮดเกียร์ หรือ Headgear ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ติดรอบศีรษะ หรือคอ เพื่อให้มีแรงในการเคลื่อนย้ายตำแหน่งฟัน รวมทั้งรีเทนเนอร์ ที่จะช่วนยึดฟันให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ซึ่งทันตแพทย์ทั่วไป ไม่สามารถจะใช้เครื่องมือเหล่านี้ รักษาให้คนไข้ได้ แต่ทันตแพทย์จัดฟันนั้น กว่าจะสามารถเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดฟัน และใช้เครื่องมือต่าง ๆ ก็ต้องสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนทันตแพทย์ก่อน แล้วศึกษาต่อด้านการจัดฟันโดยเฉพาะอีกเป็นเวลานาน 2-3 ปี

ทันตแพทย์ทั่วไป อาจจะได้รับการฝึก ให้แก้ปัญหาเกี่ยวกับการจัดฟันได้บ้างเล็กน้อย แต่ส่วนใหญ่แล้ว เมื่อทันตแพทย์ทั่วไป พบว่าใครมีปัญหาและจำเป็นต้องได้รับการแก้ไข ก็จะส่งตัวให้กับทันตแพทย์เฉพาะทางด้านการจัดฟัน เพราะได้รับการฝึกอบรม และเรียนรู้มามากกว่าหลายปี

หาข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดฟัน

ปัจจุบัน อุปกรณ์ที่นำมาใช้ในการจัดฟันนั้น มีหลากหลาย บางอุปกรณ์ก็เพิ่งจะมีการนำมาใช้กันเพียงไม่นาน บางอุปกรณ์ ก็ใช้กันมานานหลายสิบปีแล้ว อุปกรณ์แต่ละอย่าง ก็จะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันไป ซึ่งจะเป็นการดี หากคุณได้มีการศึกษาหาข้อมูลเบื้องต้น เกี่ยวกับตัววัสดุ วิธีการ ระยะเวลาที่ต้องใช้ ความถี่ในการพบทันตแพทย์ รวมทั้งราคา เพื่อประกอบการตัดสินใจด้วย

อุปกรณ์ที่เป็นสแตนเสล แบล็กเก็ต และลวดจัดฟันนั้น เป็นอุปกรณ์ที่ใช้กันมาตั้งแต่ปี 1927 แล้ว ในขณะที่แบล็กเก็ตเซรามิค หรือพอร์เซลีน ซึ่งมีสีเหมือนฟันนั้น นำมาใช้ตั้งแต่ช่วงปี 1970 เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยพรางให้การจัดฟันนั้นดูดีขึ้น มองเห็นตัวแบล็กเก็ตที่ติดอยู่กับฟันได้ไม่ชัดเจนนัก เพราะมีสีใส หรือสีเดียวกับฟัน ส่วนอุปกรณ์ Invisalign นั้น เป็นอุปกรณ์ใหม่ ซึ่งจะเป็นถาด หรือ Trays ใส เป็นชุด Aligners ที่สวมครอบลงไปบนฟันเพื่อปรับฟันให้เขาที่ โดยอุปกรณ์ตัวนี้ ถอดใส่เองได้ และต้องเปลี่ยนถาดใหม่ ทุก 2 สัปดาห์ อุปกรณ์ในลักษณะถาด หรือที่เรียกว่า Aligners ยังมีอีกหลายแบรนด์ให้เลือก เช่น ClearCorrect และ Simpli5 เป็นต้น ปัจจุบันนี้ เหล็กจัดฟันและลวดบางชนิด ก็ถูกออกแบบให้มีสีใส เมื่อใส่เข้าไปในปากแล้ว แทบจะมองไม่เห็น นอกจากนั้น ยังมีการจัดฟันแบบจัดด้านใน หรือ Iingual เป็นอีกทางเลือกหนึ่งด้วย

ขอคำปรึกษาจากทันตแพทย์จัดฟันก่อน

การขอคำปรึกษาจากทันตแพทย์จัดฟัน เป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก โดยจะใช้เวลาประมาณ 45 นาที จะมีการเอ็กซเรย์แบบ Panoramic เพื่อให้เป็นภาพทั้งปาก ถ่ายภาพ และซักประวัติเกี่ยวกับสุขภาพ อาการเจ็บป่วย และการใช้ยา จากนั้นจะต้องมีการตรวจวัดช่องปาก กระดูกขากรรไกร ความหนาแน่นของกล้ามเนื้อ ระยะห่างของซี่ฟัน และการซ้อนเก หรือความหนาแน่นของฟัน และต่อมาทันตแพทย์จัดฟัน ก็จะแนะนำวิธีการรักษา และทางเลือกในการใช้อุปกรณ์ ค่าใช้จ่าย ระยะเวลา และการคาดการณ์ผลสำเร็จที่คุณจะได้รับ

ค่าใช้จ่ายที่จะต้องเตรียมในการจัดฟัน

ราคาของการจัดฟันในแต่ละแบบ และแต่ละคลินิค จะมีความแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับหลายองค์ประกอบ ทั้งวิธีการที่จะเลือกใช้ ทันตแพทย์ และสถานที่ที่จะเข้ารับการรักษา ราคาที่แพงที่สุด ก็ใช่ว่าจะดีที่สุดเสมอไป คลินิคทันตกรรม ที่มีบริการจัดฟันส่วนใหญ่ จะมีข้อเสนอในการผ่อนชำระให้กับคนไข้ด้วย ซึ่งแต่ละแห่ง ก็มีเงื่อนไขในการชำระที่แตกต่างกันออกไปเช่นกัน ดังนั้น การหาข้อมูล เปรียบเทียบราคา และเงื่อนไข จึงเป็นขั้นตอนของการเตรียมตัวก่อนการจัดฟัน ที่สำคัญอีกขั้นตอนหนึ่ง เพื่อที่จะได้เลือกแนวทางที่เหมาะกับตนเองมากที่สุด

บทความที่น่าสนใจ